เมื่อคืนวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีทำให้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำไหลเข้าท่วมหลายจุด
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น.นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีพร้อมด้วยนายณรงค์พันธ์ แจ่มจันทร์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภออินทร์บุรี ป้องกันจังหวัดสิงห์บุรี และประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี ลงพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ตรวจเยี่ยมจุดน้ำทะลักใต้ผนังกั้นน้ำเจ้าพระยาเพิ่ม 1 จุด รอยแตกยาวประมาณ 3 เมตร ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ม.1 -ม.4 โดยจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast นายกเทศมนตรีตำบลทับยา ได้ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้ยกของขึ้นที่สูงแล้ว เบื้องต้น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ ศปภ. เขต 16 ชัยนาท ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพิ่มเติม จำนวน 2 เครื่อง จากเดิม 9 เครื่อง รวม 11 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ และนำรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย พร้อมเรือท้องแบน เพื่อเตรียมอพยพและเคลื่อนย้าย ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ไปยังจุดปลอดภัยต่อไป
ต่อจากนั้นเวลา 11.00 น.นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีพร้อมนายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอพรหมบุรี และโยธาธิการผังเมืองสิงห์บุรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนตำบลหัวป่า ที่กำลังกรอกกระสอบทราย ช่วยกันนำไปป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมชุมชน บริเวณวัดหัวป่า หมู่ที่ 1 ต.หัวป่า อ.พรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อคืนเขื่อนป้องกันตลิ่งถูกแรงดันน้ำเซาะทรุดตัวระยะทางประมาณ 30 เมตร ทำให้ไหลเข้าท่วมขังบ้านเรือนประชาชนตำบลหัวป่า จำนวน 10 หลังคาเรือน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเกิดน้ำท่วมขัง
ซึ่งทางกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงไว้เรียบร้อย และได้นำกระสอบทรายเสริมคันดินล้อมบ้าน เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าภายในครัวเรือนเพิ่ม
เพื่อความไม่ประมาท ขอแจ้งให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และรับฟังข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด สถานการณ์แม่เจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในวันนี้พายุ "คัลแมกี" เข้าไทยแล้ว จะมีฝนตกหนัก วันที่ 7-9 พ.ย.68 คาดว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะปล่อยน้ำถึง 3,000 ลบ.ม./วินาที